10เมือง





        10 สุดยอดเมืองท่องเที่ยวในอิตาลี ITALY





เที่ยวอิตาลี จุดหมายปลายทางยอดฮิตของคนไทย ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ มากมาย กระจายทั่วประเทศ

เที่ยวโรม Rome อิตาลี

ทริปเที่ยวโรม อิตาลี กรุงโรมเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นลาซีโอและประเทศอิตาลีจ้า มีคนอาศัยประมาณ 2.5 ล้านคน ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สวยและน่าไปที่สุดอีกเมืองหนึ่งของอิตาลี มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 2,800 ปี ทั้งสถาปัตยกรรม ประติมากรรม สถานที่เที่ยวต่างๆ คลุกเคล้าความคลาสสิคสไตล์ยุโรปที่คุณจะต้องหลงรัก

โคลอสเซียม (Colosseum)

โคลอสเซียม หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก เป็นสนามกีฬากลางแจ้งที่ใหญ่โตแอนด์มโหฬารที่สุดในสมัยโบราณค่า สร้างขึ้นในปี ค.ศ.72 โดยจักรพรรดิเวสปาเซียน รูปทรงโค้งเป็นวงกลม ก่อด้วยอิฐและหินขนาดใหญ่ วัดโดยรอบ ยาว 527 เมตร สูง 57 เมตร มี 4 ชั้น จุคนได้ถึงประมาณ 80,000 คนเลยทีเดียวว มีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังตอนฝนตก ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆ ในปัจจุบัน งานที่สร้างในสมัยนั้นแต่ยิ่งใหญ่อลังการขนาดนี้ น่านับถือฝีมือมากๆ
DSC01860

มหาวิหารแพนธีออน (Pantheon)

มหาวิหารแห่งนี้มีอายุกว่า 2,000 ปี แต่เดิมสร้างโดยมาร์คัส วิพซานิอัส อกริพพา (Marcus Vipsanius Agrippa) ใช้เป็นเทวสถานสำหรับเทพต่างๆ ของโรมันโบราณและเป็นคริสต์ศาสนสถานของโรมันคาทอลิก
ต่อมาได้รับการสร้างใหม่ในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 2 และก็ยังคงใช้งานกันมาตลอดตั้งแต่สร้างครั้งแรก แต่สภาพยังดีเหมือนเดิมเลย นอกจากกาลเวลาจะไม่สามารถทำให้มหาวิหารแพนธีออนผุพังไปได้แล้ว ยังเป็นสิ่งก่อสร้างจากสมัยโรมันที่คงสภาพสมบูรณ์ที่สุดอีกด้วยค่า แสดงให้เห็นถึงอัจฉริยะในการสรรค์สร้างของสถาปนิกสมัยโบราณจริงๆ

shutterstock_204115126

shutterstock_289999616

น้ำพุเทรวี (Trevi Fountain)

น้ำพุแบบบาโรกที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในกรุงโรมมีความสูง 25.9 เมตร กว้าง 19.8 เมตร ตั้งอยู่ตรงทางสามแพร่ง จึงเป็นที่มาของชื่อเทรวี ที่มาจากคำว่าตรีวิอุม หมายถึงการพบกันของถนนสามสายนั่นเอง
น้ำพุเทรวีขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงาม เป็นแบบสไตล์บารอค ซึ่งองค์สมเด็จสันตะปาปาครีเมนต์ที่ 12 ได้มอบหมายให้ นิโคลา ซาลวี่ ออกแบบและก่อสร้างขึ้นในปี 1732 โดยใช้เวลาสร้างทั้งสิ้นรวม 30 ปี แถมยังมีเสน่ห์จนภาพยนตร์หลายเรื่องพากันมาถ่ายทำที่นี่เลยล่ะค่า
ตรงกลางน้ำพุมีรูปปั้นแกะสลักเทพเจ้าเนปจูนและไทรทันซึ่งเป็นเทพแห่งท้องทะเลตั้งอยู่อย่างอลังการ แสดงถึงการมีสุขภาพที่แข็งแรง ความอุดมสมบูรณ์ของอาณาจักร และลักษณะของทะเลที่เงียบสงบและแปรปรวน ว่ากันว่าถ้าใครโยนเหรียญลงไปในน้ำแล้วอธิษฐานจะทำให้กลับมายังประเทศอิตาลีอีกครั้งด้วยน้า โดยการโยนที่ถูกต้องคือหันหลังให้กับน้ำพุ ใช้มือขวากำเหรียญเอาไว้พร้อมอธิษฐานในใจ แล้วโยนเหรียญข้ามไหล่ซ้ายของเราให้ลงบ่อน้ำพุ ก็จะสมหวังตามคำอธิษฐาน
shutterstock_186828752

นครรัฐวาติกัน State of the Vatican City

นครรัฐวาติกัน State of the Vatican City ตั้งอยู่ติดกับกรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ คือมีสมเด็จพระสันตปาปา หรือโป๊ป เป็นประมุขสูงสุด วาติกัน จริงๆ แล้วก็เป็นเหมือนกับประเทศๆหนึ่ง และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันของใครหลายๆ คนด้วย เพราะไม่เพียงแต่เป็นดินแดนแห่งศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งรวมงานศิลปะชั้นเลิศมากมาย พร้อมสถาปัตยกรรมที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาวิหารเซ็นต์ปีเตอร์ (Basilica of Saint Peter) ผลงานออกแบบของไมเคิลแองเจโลก ที่เป็นศูนย์รวมใจหลักของคริสตชนและเป็นสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในนครรัฐ หรือโบสถ์น้อยซิสทีน (Sistine Chapel) โบสถ์ขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในวังของโป๊ปด้วย โดยโบสถ์น้อยซิสทีนนี้เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดเรื่องจิตรกรรมฝาผนังสุดตระการตา รวมถึงภาพวาดบนเพดานฝีมือของไมเคิลแองเจโลด้วย

shutterstock_352086830
shutterstock_391413496

เที่ยวเวนิส Venice อิตาลี

เมืองเวนิส Venice หรือเมืองเวเนเซีย Venezia ตามภาษาอิตาเลียน เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับคนไทย และถือเป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้คนทั่วโลกต่างใฝ่ฝันที่จะมาเยือนสักครั้งในชีวิต เวนิสเป็นเมืองที่มีบรรยากาศสวย และโรแมนติกมากที่สุดแห่งนึงของโลก เปรียบเสมือนห้องรับแขกของทวีปยุโรป ต้อนรับนักท่องเที่ยวปีละ มากกว่า 30 ล้านคน โดยองค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลกตั้งแต่ปี 1987

แกรนด์คาแนล Grand Canal

แกรนด์คาแนล เป็นคลองที่มีชื่อเสียงที่สุดของเวนิสในด้านการท่องเที่ยว มาที่นี่แล้วที่พลาดไม่ได้เลยคือการล่องเรือกอนโดล่า เพราะริมคลองมีทางเดินอยู่เพียงเล็กน้อย การสัญจรทางเรือจึงเป็นที่นิยมมาก และในสมัยก่อนนั้น เรือสินค้าขนาดใหญ่ต้องใช้คนพายหลายคน เมื่อสินค้ามาถึงยังเกาะเวนิสก็ต้องมีการแบ่งสินค้าและถ่ายเทไปแจกจ่ายค้าขายทั่วทั้งเกาะ แต่พื้นที่บางจุดถูกตัดขาดและไม่มีสะพานเชื่อมต่อ จึงต้องนำสินค้าขนใส่เรือแจวลำเล็กเรือกอนโดลา และในปัจจุบันเรือกอนโดลาก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของเวนิสไปเป็นที่เรียบร้อย ล่องเรือเพลินๆ กับคลองที่มีความยาวประมาณ 3,800 เมตร และมีความกว้างประมาณ 30-90 เมตร ที่นี่อากาศดี และบ้านเมืองสะอาดตา ชมบ้านเรือนสวยๆ สีสรรหลากหลาย แต่ยังคงรูปแบบเดิมอายุหลายร้อยปีไว้อย่างดี ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญระดับโลกเกือบทั้งหมดของเมือง ทั้งพระราชวังและโบสถ์และสถาปัตยกรรมที่งดงามเรียงรายอยู่ริมฝั่งคลอง รับรองว่าจะเป็นประสบการณ์ที่คุณจะต้องหลงรักอย่างแน่นอนน

shutterstock_185952380
shutterstock_311835425

หน้ากากเมืองเวนิส

เทศกาลคาร์นิวัลหน้ากากเมืองเวนิส เป็นงานคาร์นิวัลสวมหน้ากากที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีมาตั้งแต่ปี 1268 แต่การเฉลิมฉลองโดยมีสวมหน้ากากรวมถึงแต่งองค์ทรงเครื่องกันอย่างอลังการนั้น ดูเหมือนจะเพิ่งมีขึ้นในเกือบ 200 ปีให้หลัง เมื่อช่างทำหน้ากากหรือ mascareri ได้รวมตัวกันก่อตั้งสมาคมขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 1436 และจัดงานรื่นเริงสวมหน้ากากขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวเมืองทุกคนได้สนุกสนานรื่นเริงตามใจชอบ
ต่อมาในปี 1797 หลังจากการยึดครองของกองทัพของนโปเลียน กษัตริย์ฝรั่งเศส และต่อมาออสเตรีย ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป การยึดครองนำมาซึ่งการสั่งห้ามการจัดงานเฉลิมฉลองงานรื่นเริงเป็นเวลาหลายปี ผู้คนไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้หน้ากากเปเปอร์มาเช่เพื่อปกปิดหน้าตา และงานเต้นรำสวมหน้ากากก็ถูกสั่งห้ามจัด
จนกระทั่งทศวรรษที่ 1970 ประเพณีดั้งเดิมดังกล่าวถูกฟื้นขึ้นมาใหม่ เมื่อกลุ่มของอดีตนักศึกษาอคาเดมี ออฟ ไฟน์ อาร์ต ได้เปิดร้านขายหน้ากากสมัยใหม่แห่งแรกของกรุงเวนิสขึ้นในปี 1978 เทศกาลหน้ากากเวนิสก็ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งและกลายเป็นเทศกาลสำคัญของชาวเวนิส จนถึง ณ ปัจจุบันนี้
shutterstock_68712079


เกาะบูราโน่ Burano

เกาะเมืองลูกกวาดแห่งอิตาลี เป็นเกาะเล็กๆ น่ารัก คิ้วท์ๆ >,< ตั้งอยู่ในเขตทะเลสาบเวนิสค่ะ มีคลองตัดผ่านใจกลางเมือง ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่แสนสงบ แต่ครึกครื้นไปด้วยสีสันของบ้านเรือนตลอดสองฝั่งคลอง ทั้งตัวตึกและดอกไม้สีสันสดใส สร้างความประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเลยย
เนื่องจากมันเกาะไซส์มินิจึงใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็สามารถเดินเที่ยวได้ทั่วเกาะแล้วล่ะจ้า แต่ละที่ถึงแม้จะมีคลองตัดผ่านแต่ก็มีสะพานเล็กๆ ให้เดินข้ามลัดเลาะไปทุกซอกทุกซอยได้ ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขนม ร้านอาหาร ผู้คนส่วนใหญ่มีอาชีพประมง อาหารทะเลที่นี่จึงสดมาก แถมเพลิดเพลินไปกับสถาปัตยกรรมแบบเก่า บ้านเรือนมีลักษณะโดดเด่น สีสันสดใสสุดๆ ว่ากันว่าบ้านไหนจะทาสีจะต้องไปขออนุญาติจากทางการ ถ้าสีไม่แจ่มไม่เจิดก็ไม่อนุมัตินะ บ้านแต่ละหลังก็จะมีเรือจอดอยู่หน้าบ้าน เพราะผู้ชายมีอาชีพทำประมง ส่วนผู้หญิงก็ปักผ้าลูกไม้สวยๆ อยู่ที่บ้าน จนเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อด้านหัตกรรมทำลูกไม้ติดอันดับต้นๆ ของอิตาลีเลย

DSC02288


เมืองฟลอเรนซ์ อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศอิตาลีค่า ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอาร์โน เป็นเมืองร่ำรวยศิลปะ ทั้งยังเป็นบ้านของศิลปินเทพหลายๆ ท่าน ทั้งไมเคิลเองเจลโล, ลีโอนาโดดาวินชี่ และเป็นเมืองต้นกำเนิดของศิลปะเรเนอซอง ไม่แปลกเลยที่เมืองฟลอเรนซ์จะเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก!

มหาวิหารฟลอเรนซ์ (Florence Cathedral)

มหาวิหารฟลอเรนซ์ (Florence Cathedral) หรือ อาสนวิหารซานตา มาเรีย เดล ฟิออเร (Basilica di Santa Maria del Fiore) มหาวิหารที่ตั้งอยู่ในเขตจัตุรัสเปียซซ่า เดล ดูโอโม ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 13 ออกแบบโดยฟีลิปโป บรูเนลเลสกี ด้านหน้าโบสถ์ประดับตกแต่งด้วยหินอ่อนสีขาว เขียว และชมพู เป็นมหาวิหารที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 4 ของทวีปยุโรป รองลงมาจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ มหาวิหารเซนต์พอล และมหาวิหารมิลาน มีความยาว 153 เมตร และฐานของโดมกว้างถึง 90 เมตร อายุกว่า 800 ปี

shutterstock_300334088

1462978_10152526455037203_1840732990_n

จัตุรัสซินญอเรีย (Piazza della Signoria)

มาถึงที่นี่ลองหมุนตัวแบบ 360 องศาดูค่าา แล้วจะเห็นว่ารอบตัวคือศิลปะ และสถาปัตยกรรมอันวิจิตรที่สวยงามมากมาย
จัตุรัสซินญอเรียนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฟลอเรนซ์ ถือเป็น 1 ใน 3 จัตุรัสที่โดดเด่นของอิตาลี รายล้อมด้วยอาคารเก่าแก่และงานศิลปะ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นงานประติมากรรมแกะสลักหินอ่อนที่งดงาม ทั้งรูปแกะสลักเดวิดของแท้ที่ตั้งมานานกว่า 3 ศตวรรษ เทพเนปจูน เทพอพอลโล เพอร์ซิอุส เฮอร์คิวลีส รวมทั้งอนุสาวรีย์ของโคสิโม่ที่ 1 แห่งฟลอเร้นซ์ โอ้โหหห เด็ดๆ ทั้งนั้นเลยย และด้านข้างยังมีประติมากรรมสำริดรูปเพอร์ซีอุสถือหัวนางเมดูซ่า ผลงานของเซลลินีอีกด้วย
1003531_10152526454417203_1807263362_n
shutterstock_449316631


สะพาน ปอนเต เวคคิโอ Ponte Vecchio

เป็นสะพานเก่าแก่ที่สุดของเมืองฟลอเรนซ์ที่มีมาตั้งแต่สมัยโรมันค่า แต่เดิมตัวสะพานสร้างด้วยหินและมีแผ่นไม้วางพาด สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการสัญจรข้ามแม่น้ำอาร์โน
ในปี ค.ศ 1333 ได้ถูกน้ำซัดพังเสียหายเนื่องจากอุทกภัย และปี 1345 ก็ได้สร้างขึ้นใหม่ให้มีสภาพคงทนแข็งแรงมากขึ้นและใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังเป็นสะพานที่รอดพ้นจากการถูกทำลายจากชาวเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยนะคะ
แต่เดิมบนสะพานจะมีร้านค้าที่ขายพวกของสด เนื้อสัตว์ ปลา หรือเครื่องอุปโภค บริโภคอื่น ๆ แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนจากกลิ่นเนื้อสัตว์ที่อบอวล กลายเป็นตลาดค้าเครื่องประดับสวยหรู ทั้งร้านเครื่องเงิน ร้านทอง เครื่องประดับต่าง ๆ นานา อัญมณี งานศิลปะ และของที่ระลึกจำนวนมาก ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาจับจ่ายซื้อของกัน จนได้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองฟลอเรนซ์นั่นเองจ้า
shutterstock_131576816

shutterstock_119813257

เที่ยวปิซ่า Pisa อิตาลี

นี่คือสถานที่เที่ยวชื่อดัง ที่ทุกคนที่ไปเที่ยวอิตาลีคงรู้จักกันดี หอเอนปิซ่าาา!
สถานที่นี้เป็นหอระฆังทรงกระบอกของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก มีความสูง 8 ชั้น หรือประมาณ 183.3 ฟุตค่ะ น้ำหนักรวม 14,500 ตัน สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ภายในมีเสาหินอ่อนที่สลักลวดลายอย่างสวยงามจากฝีมือจิตรกรชื่อดัง มีบันได 293 ขั้น เอียง 3.97 องศา ยอดของหอห่างจากแนวตั้งฉาก 3.9 เมตร ตั้งอยู่ที่เมืองปิซา ในจัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม ค่า
โดยเริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1173 แต่การก่อสร้างหยุดชะงักเมื่อสร้างไปได้เพียง 3 ชั้น เนื่องจากพื้นใต้ดินนั้นนิ่ม ทำให้เกิดการยุบตัวลง จึงสร้างให้เอนกลับไปอีกด้านหนึ่งเพื่อให้เกิดสมดุล แต่การก่อสร้างในครั้งนี้ก็ต้องหยุดชะงักลงอีกครั้งเพราะได้เกิดสงครามขึ้น ต่อมาก็มีการสร้างหอต่อขึ้นอีกจนเสร็จในปี ค.ศ.1350 โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมดถึง 177 ปี เมื่อวัดดูปรากฏว่าเอียงออกจากแนวดิ่งของฐานถึง 14 ฟุต แต่ก็ยังไม่ล้ม ยังคงเอียงอยู่ถึงทุกวันนี้ และกลายเป็นสิ่งแปลกและมหัศจรรย์ของโลก ที่ใครมาถึงก็จะเห็นผู้คนรำไทเก๊ก เอ้ย! ถ่ายรูปทำท่าดันหอเอนปิซานี้อยู่แน่นอนนน
ต้องทำท่าแปลกๆ เก๋ๆ เข้าไว้ มากระโดดคิก มาเตะ มาดัน มาผลัก มาเอาหัวโหม่ง หยิบ กอด อะไรก็แล้วแต่ ตามความครีเอทีฟของแต่ละคนค่ะ หญิงปุ๊กมารอบสองละ ถ่ายแบบธรรมดาพอนะ 5555 ว่าแต่ว่า ทำไมคนถ่าย ถ่ายให้ตึกตรงจัง
นอกจากนี้ กาลิเลโอ เคยใช้หอนี้ทดลองในเรื่องแรงโน้มถ่วง โดยใช้ลูกบอล 2 ลูกที่ที่หนักไม่เท่ากัน แต่เพื่อดูว่าลูกบอลมันจะตกลงมาในเวลาเท่ากันหรือไม่นั้นเอง ผลก็ออกเป็นไปตามคาดที่เขาว่าเอาไว้เลยมันหล่นในเวลาที่เท่ากันจริงๆ
shutterstock_84489133


จัตุรัส Piazza del Campo

หมุนตัว 360 องศาที่จัตุรัส Piazza del Campo
จัตุรัสกัมโป หรือแปลว่าจัตุรัสมหัศจรรย์ ตั้งอยู่กลางเมืองปิซ่า เป็นบริเวณที่มีกำแพงล้อม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์กรยูเนสโก้ และเป็นหนึ่งในจัตุรัสของยุโรปที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากที่สุดด้วย เพราะความที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วเรื่องมีสถาปัตยกรรมสุดตระการตา เป็นที่ตั้งของทั้งมหาวิหารปิซ่า หอเอนปิซ่า หอศีลจุ่ม และสุสานด้วย
จัตุรัสกัมโปยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจด้วย มีกิจกรรมและสถานที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเดินเล่นถ่ายรูปสวยๆ ชมน้ำพุ Fonte Gaia หากาแฟร้อนๆดื่มได้จากในร้านจำนวนนับไม่ถ้วนที่มีอยู่รอบจตุรัส หรือปีนขึ้นหอคอย Torre del Mangia เป็นต้น
shutterstock_526185472
shutterstock_539002312



เที่ยว Cinque Terre อิตาลี

ชื่นชมความงามของ Cinque Terre 5 หรือหมู่บ้านริมผาทั้ง 5
หมู่บ้านริมผาทั้ง 5 เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงเหนือทะเล ในแคว้นลิกูเรีย Liguria อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกขององค์กรยูเนสโก้ด้วย เพราะว่าพื้นที่บริเวณนั้น ไม่ว่าจะเป็นทะเล หาดทราย ฯลฯ ล้วนมีความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากเป็นเขตที่ถูกอนุรักษ์เอาไว้
หมู่บ้านริมผาทั้ง 5 ประกอบด้วยเมืองยิบย่อย 5 เมืองตามชื่อ ได้แก่ เมืองมอนเตเรสโซ อัล มาเร Monterosso al Mare, เมืองเวอร์นัสซา Vernazza , เมืองคอร์นิเลีย Corniglia, เมืองมานาโรลา Manarola และเมืองริโอมัจจอร์เร Riomaggiore ซึ่งแน่นอนว่ากว่าทั้งหมดนี้จะถูกสร้างขึ้นมาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เป็นเวลาหลายศตวรรษแล้วที่กลุ่มคนพยายามจะเนรมิตมันขึ้นมาอย่างยากลำบาก เพราะต้องคอยระวังหน้าผาที่ทั้งขรุขระและสูงชัน ส่วนในเรื่องการเดินทางนั้น มีรถไฟกับเรือที่จะเชื่อมต่อไปยั่งหมู่บ้าน แต่จะไม่สามารถขับรถเข้าไปได้
shutterstock_538892095

shutterstock_540575815

เที่ยวมิลาน Milan อิตาลี

โรงโอเปร่า (La Scala)

ดูโอเปร่าที่ La Scala หนึ่งในโรงโอเปร่าที่สำคัญของโลก อยู่ในเมืองมิลาน Milan สร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อปี 2319 และเปิดแสดงอย่างเป็นทางการจริงๆเมื่อปี 2321 ด้วยชุดการแสดงที่ชื่อ Europa Riconosciuta โดยตลอดระยะกว่า 200 ปีที่ผ่านมานี้ ไม่ว่าศิลปินโอเปร่าที่เด่นดังของอิตาลีคนไหนก็ตาม หรือแม้แต่จากประเทศอื่นๆในโลก ต่างก็ต้องพากันมารวมตัวกันเพื่อแสดงความสามารถที่นี่แทบทั้งนั้น
ซึ่งจริงๆแล้ว ที่นี่ไม่เพียงแต่แต่เป็นที่แสดงโอเปร่าเท่านั้น แต่ยังใช้ในการแสดงบัลเล่ต์ มีพิพิธภัณฑ์ประจำโรงที่ภายในจะจัดแสดงงานศิลปะอยู่มากมายหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด งานประติมากรรม หรือเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่ใช้ในการแสดง นอกจากนี้ทางโรงยังมีโรงสถาบันสอนการแสดงเป็นของตัวเองชื่อ La Scala Theatre Academy ด้วย โดยจะฝึกให้ผู้เรียนสันทัดทั้งด้านดนตรี การร้องรำทำเพลง การเต้น ฯลฯ
shutterstock_532989268

shutterstock_432707695

ชมภาพผลงานของลีโอนาร์โด ดาวินชี Leonardo Da Vinci

ในเมื่อมาถึงอิตาลี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของลีโอนาร์โด ดาวินชี ศิลปินผู้มากความสามารถแล้วทั้งทีละก็ การพลาดไม่ได้ไปหาชมผลงานของเขาถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายสุดๆ
จริงๆแล้วดาวินชีไม่ได้เป็นแค่ศิลปิน แต่ยังเป็นทั้งสถาปนิก นักวิทยาศาสตร์ นักประดิษฐ์ และอื่นๆ อีกมากมายด้วย แต่คนส่วนมากมักจะคุ้นเคยกับเขาในฐานะศิลปินมากกว่า เพราะที่ผ่านมาผลงานศิลปะของเขาได้ถูกเผยแพร่ออกมาสู่สายตาชาวโลกมากมาย น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก โดยเฉพาะงานภาพวาดที่เด่นดังที่สุด อย่างภาพโมนาลิซ่า Mona Lisa หรือภาพพระกระยาหารมื้อสุดท้าย (The Last Supper)
ผลงานสองชิ้นนี้ถือเป็นงานคุณภาพยิ่งกว่าระดับมาสเตอร์พีซเสียอีก แต่ว่าภาพโมนาลิซ่า อยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ในฝรั่งเศส เพราะฉะนั้นถ้ามาอิตาลีแล้ว อย่างน้อยๆหาโอกาสไปดูภาพพระกระยาหารมื้อสุดท้ายก็ยังดี ภาพนี้เป็นจิตรกรรมฝาผนัง อยู่ที่โบสถ์ซานตามาเรียเดลเลกราซี ในเมืองมิลาน

shutterstock_525564748

เที่ยวเนเปิลส์ Naples อิตาลี

เนเปิลส์ หรือนาโปลีเป็นเมืองหลวงของแคว้นกัมปาเนีย เป็นเมืองท่าของอิตาลีและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของอิตาลี และเป็นเมืองที่ถูกกล่าวว่าเก่าแก่ที่สุดในโลก ซึ่งเมืองเนเปิลส์นั้นเป็นเมืองแห่งศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี สถาปัตยกรรม และการทำอาหาร อีกทั้งใจกลางเนเปิลส์ยังเป็นศูนย์กลางเมืองทางประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เนเปิลส์ยังมีปะติมากรรมที่สวยมากอย่างนึงคือ รูปปั้นหินอ่อนพระเยซูที่แกะสลักได้อย่างไร้ที่ติ รูปปั้นนี้ชื่อว่า Christo Velato
ปอมเปอี เป็นเมืองเล็กๆ ที่สร้างใต้ภูเขาไฟ (Mt. Vesuvius) ในส่วนของสถานที่ที่ปอมเปอีนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นซากเมืองโบราณเนื่องจากภูเขาไฟระเบิด ลาวาก็ได้ไหลปกคลุมไปทั้งเมือง ไม่ไกลกันมากนักจะเป็นเกาะคาปรี (Capri) เป็นเกาะที่มีท่าเรืออยู่เยื้องๆ กัน Highlight คือถ้ำที่มุดลงไปแล้วน้ำทะเลจะเป็นสีฟ้าเหมือนไฟนีออน ที่ติดอยู่ใต้ทะเลสวยงามมาก นั่นคือ ถ้ำบลูกร็อตโต้ (Blue Grotto) และอีกสถานที่นึงที่น่าสนใจนั่นก็คือ Amalfi Coast โดยท่านสามารถนั่งทัวร์จากเมืองเลียบชายฝั่ง จะผ่านเมืองสวยๆ ของอิตาลีหลายแห่ง เช่น Positano ซึ่งเป็นเมืองที่สวยมาก เป็นหมู่บ้านหน้าผาและเป็น Highlight ของระแวกแถวนั้น
ภาพนี้เป็นหนึ่งในภาพที่หญิงปุ๊กชอบมากเป็นพิเศษ รู้สึกว่ามันลงตัวและพอดี ทำให้นึกถึงว่า ชีวิตคู่ก็เหมือนกับการเดินร่วมกันไปบนเส้นทางเดียวกัน ที่ทั้งคู่ต้องช่วยกันประคับประคอง และก้าวเดินไปพร้อมๆ กัน เคียงบ่าเคียงไหล่กันจนแก่เฒ่า วี๊ดวิ่วๆๆๆ น่ารักจริงๆ เลย

1384206_10152520301047203_378550108_n-1

เที่ยวอามัลฟี Amalfi อิตาลี

ขับรถริมผาที่ Amalfi Coast

ชายฝั่งอามัลฟีเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ถูกจัดให้เป็นมรดกโลกขององค์กรยูเนสโก้ เพราะมีทัศนียภาพที่สวยงามมาก ทั้งหน้าผา ทั้งชายทะเล ประกอบด้วยเมืองหลายเมืองรวมกัน ได้แก่ โปซีตาโน Positano, วีเอตรีซุลมาเร Vietri sul Mare , มาโยรี Maiori, มีโนรี Minori, เซตารา Cetara, สกาลา , อามัลฟี Amalfi, อาตรานี Atrani, ราเวลโล Ravello, กอนกาเกย์มารีนี Conca dei Marini, ประยาโน Praiano และฟูโรเร Furore โดยจะมีจุดให้แวะพักเรื่อยๆตามเส้นทาง อีกทั้งยังมีโรงแรมสวยๆ บรรยากาศดีๆเปิดรอให้บริการอยู่เพียบ
นอกจากนี้ยังมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามอลังการอยู่เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ซานลูกาและซานเจนนาโร, โบสถ์ซานตาโตรฟิเมนา, คฤหาสน์โรมันโบราณ, คฤหาสน์ซิมโบรเน หรือ โบสถ์ซานตามารีอาอัสซุนดา

shutterstock_537910201



เที่ยวเวโรน่า Verona อิตาลี

เมืองเวโรน่า เมืองขนาดกระทัดรัด แสนอบอุ่น ล้อมรอบด้วยสายน้ำ เห็นเล็กๆ แบบนี้แต่มีที่เที่ยวค่อนข้างเยอะพอสมควรเลยนะคะ ตั้งอยู่ในแคว้นเวเนโตในประเทศอิตาลี เป็นเมืองแห่งตำนานรักที่ทุกคนจะต้องรู้จักกันดีอย่างแน่นอน นั่นก็คือ โรมิโอ แอนด์ จูเลียต ของเชคสเปียร์นั่นเองค่า
นอกจากนี้ ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางศิลปะและวัฒนธรรม รวมถึงสถาปัตยกรรมที่มีอายุเป็นร้อยๆ ปี ซึ่งทางรัฐบาลได้รักษาสภาพเดิมของสภาพสิ่งก่อสร้างจากสมัยโรมันไว้ได้อย่างสมบูรณ์ จนยูเนสโกยกให้เป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม และได้รับสมญานามว่า Little Roman อีกด้วยค่า
shutterstock_314345057


เที่ยวปอมเปอี Pompeii อิตาลี

สำรวจเมืองโบราณ Pompeii

ที่นี่คือเมืองโบราณของโรมัน ตั้งอยู่ในแคว้นกัมปาเนีย Campania โดยเมื่อประมาณเกือบๆ 2 พันปีก่อน วันที่ 24 ส.ค. ได้เกิดเหตุโศกนาฏกรรมขึ้น เมื่อภูเขาไฟวิสุเวียส Mount Vesuvius ระเบิด สร้างความเสียหายหนักมาก ทำลายเมืองและบ้านเรือนในละแวกใกล้เคียงเกือบจะราบคาบ นอกจากนี้คนหลายหมื่นชีวิตยังต้องถูกฝังทั้งเป็นอยู่ใต้กองเถ้าถ่านและลาวาร้อนๆ ว่ากันว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นน่ากลัวและรุ่นแรงกว่าระเบิดปรมาณูที่ถล่มฮิโรชิม่าเสียอีก
หลังจากนั้นปอมเปอีก็กลายเป็นเมืองสาบสูญ ก่อนจะถูกคณะนักสำรวจขุดพบเป็นครั้งแรกในปี 2142 และทำการสำรวจเมืองอยู่พักนึงก่อนจะหยุด แต่ก็เริ่มสำรวจอีกครึ่งในปี 2291 จากครั้งนั้นนี่เองที่ทำให้ได้รู้ความจริงที่น่าประหลาดใจและตกใจหลายอย่าง ทั้งเห็นความรุ่งเรื่องของอารยธรรม และเห็นร่างผู้เสียชีวิตที่ยังอยู่ในอิริยาบถต่างๆ เช่นสวดมนต์ เป็นต้น

shutterstock_522884080

เที่ยวเกาะคาปรี Capri อิตาลี

ว่ายน้ำในถ้ำ Blue Grotto ที่ Capri

นี่คือถ้ำทะเลที่อยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน Mediterranean ริมชายฝั่งของเกาะคาปรี  Capri ทางตอนใต้ของอิตาลี ซึ่งเอกลักษณ์ของมันคือ แสงแดดจะส่องลอดเข้ามาทางปากถ้ำ ทะลุลงผิวน้ำ จนทำให้เห็นแสงสีน้ำเงินสวยงามราวกับไพลิน สะท้อนวาบขึ้นมา
ถ้ำบลูกร็อตโตมีความยาว 60 เมตร เกิดขึ้นมาได้เพราะการกัดเซาะของน้ำทะเล ส่วนการเดินทางไปนั้นต้องดูจังหวะให้เหมาะ ไม่ว่าจะเป็นจังหวะที่พระอาทิตย์ส่องแสง ระดับน้ำทะเล รวมถึงความแรงลมด้วย อย่างไรก็ตาม เวลาที่ดีที่สุดคือประมาณบ่ายโมงถึงบ่ายสอง ซึ่งเมื่อไปถึงแล้วก็สามารถนั่งเรือเล่น โดยจะมีคนคอยพายให้ พาเราเข้าไปดูในถ้ำและบริเวณรอบๆ หรือจะว่ายน้ำเล่นด้วยก็ได้
shutterstock_228204430



เที่ยวทะเลสาปโกโม่ Lake Como อิตาลี

ล่องเรือที่ Lake Como

ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองโกโม่ ในแคว้นลอมบาร์เดีย Lombardy ทางตอนเหนือของอิตาลี เกิดขึ้นเพราะธารน้ำแข็งกัดเซาะ มีพื้นที่ราว 146 ตร.กม. ส่วนความลึกของน้ำอยู่ที่ราวๆ 400 เมตร ทำให้ถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่ลึกที่สุดในยุโรป และทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามในประเทศด้วย
ทะเลสาบนี้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจยอดนิยมสำหรับบรรดาผู้มีอันจะกิน หรือมหาเศรษฐีมาตั้งแต่สมัยโรมันแล้ว จนทุกวันนี้ก็ยังเป็นที่นิยมอยู่ โดยนักท่องเที่ยวสามารถมาล่องเรือเล่นแบบสบายๆ หรือจะเดินเที่ยวชมหมู่บ้านเล็กๆหลายแห่งที่ตั้งเรียงรายอยู่ริมทะเลสาบมากมายด้วยก็ได้ โดยเอกลักษณ์ของหมู่บ้านเหล่านี้คือจะมีสีสันสดใสสะดุดตา
shutterstock_541016365


ปีนขึ้นไปบนยอดภูเขาไฟ Sicily’s Mount Etna

ตั้งอยู่บนเกาะซิซิลีทางชายฝั่งตะวันออก โดยเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่สงบที่สูงที่สุดของยุโรป ด้วยความสูงถึง 3,329 เมตร และยังเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในตอนใต้ของอิตาลีบนเทือกเขาแอลป์ รวมถึงเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่มีพลังมากที่สุดในโลกด้วย โดยล่าสุดเมื่อ 8 ปีก่อนมันก็ปะทุขึ้นมาอีกแล้ว
ถึงอย่างนั้นที่นี่ก็ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม โดยคุณสามารถเลือกซื้อทัวร์ตามที่ชอบได้ แล้วทัวร์จะพาคุณนั่งรถบัสขึ้นเขาไปดูรอบๆ แต่จะไม่พาไปจนถึงปากปล่อง เพราะว่าเมื่อก่อนเคยมีทัวร์พาไปแล้ว แต่เกิดมีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตขึ้นมา
ยังไงก็แล้วแต่ ถ้าคิดจะมาเที่ยวที่ภูเขาไฟเอตน่า ต้องระวังสุขภาพนิดนึง ถึงแม้ว่าจะเป็นฤดูร้อนหรือฤดูใบไม้ผลิ อากาศก็จะยังเย็นๆ แถมยังมีลมอีก ต้องใส่เสื้อผ้าให้ร่างกายอบอุ่นเข้าไว้
shutterstock_445792069

เที่ยวเจนัว Genoa อิตาลี

น้ำพุกลางจัตุรัส Piazza De Ferrari

ถือว่าเป็น 1 ในจัตุรัสที่สวยที่สุดในอิตาลี มีความรุ่งเรืองในอดีต และเป็น 1 ในเมืองใหญ่ที่สุดของอิตาลี ที่สำคัญเป็นบ้านเกิดของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักสำรวจของโลกผู้ค้นพบทวีปอเมริกา นักทำแผนที่ นักเดินเรือ และพ่อค้าค่ะ

shutterstock_116905564

Palace of St George

เดินผ่าน เห็นตึกเรียบๆ แต่เพ้นท์ซะเนียนเหมือนเป็นปูนปั้นนูนๆ เลยค่ะ
shutterstock_80060056



เล่นสกีที่ยอดเขา Dolomites และพักที่ Cortina d’Ampezzo

ยอดเขาโดโลไมเป็นหินปูนเกิดจากการกัดกร่อนของเกล็ดน้ำค้างและธารน้ำแข็ง ลักษณะเป็นหน้าผาซ้อนกันเป็นชั้นๆ ต่อกันเป็นแนวๆ ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่ทางตอนใต้ของแคว้นทิโรล Tyrol ไปจนถึงแคว้นเวเนโต้ Vèneto และจะมีภูเขาสีเขียวที่ถูกปกคลุมด้วยต้นไม้ใบหญ้าอยู่ใกล้ๆด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในยอดเขาที่สวยงามที่สุดในโลก
ยอดเขาโกโลไมยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของอิตาลีด้วย โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่จะมีรีสอร์ทสกีเปิดพร้อมให้บริการมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Cortina d’Ampezzo เป็นทั้งเมืองและรีสอร์ทสกีบนยอดเขาที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาก เพราะไม่ได้มีเพียงที่พักสบายๆ หรือแค่ลานสกีให้เล่นสนุกกันเท่านั้น แต่ยังมีร้านค้ามากมายให้เลือกซื้อสินค้าได้อย่างจุใจด้วย
shutterstock_541551802

ความคิดเห็น